วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ผ้าที่ผูกพันกับวิถีชีวิต..

ตระกูลช่างทอตีนจกสืบเชื้อสายมาจากพญาเขื่อนแก้ว พญาไจย และวงศ์วานที่ได้อพยพเข้ามา
อยู่บ้านอาฮาม อำเภอแม่แจ่ม 
ในอดีต ผ้าตีนจกแม่แจ่มที่ทอด้วยดิ้นเงินดิ้นทองจะผลิตขึ้นเพื่อส่งส่วยเจ้าเชียงใหม่
โดยทางคุ้มเจ้าเชียงใหม่ส่งดิ้นเงินดิ้นทองมาให้และห้ามชาวบ้าน “ ไพร่ ”
นุ่งตีนจกที่ทอด้วยดิ้นเงินดิ้นทอง ให้ใช้ฝ้ายอย่างเดียว
ผ้าตีนจกถือเป็นสมบัติล้ำค่าและเป็นสิ่งบ่งชี้ฐานะทางสังคม ผู้หญิงจะใช้นุ่งไปวัดตอนบุญใหญ่ 
เช่นปอยหลวง งานเป็งต่างๆ วันศีลหลวง หญิงผู้น้อยใช้ไหว้แม่สามีเมื่อแต่งงานใหม่ ผู้หญิงคนแก่
เก็บไว้นุ่งให้ตัวเองตอนตาย 1 ผืน ให้ลูกหลานทำบุญอุทิศให้ตัวเองอีก 1 ผืน 
เอาตีนจกใส่สังฆทานให้พ่ออาจารย์(มัคคทายก) 1 ผืน 
เพราะเชื่อว่าอาจารย์เวณตานบอกทางไปสู่สวรรค์
ราว พ.ศ. 2506 อิทธิพลทางวัฒนธรรมจากภายนอกเริ่มหลั่งไหลเข้ามา
ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนเริ่มเปลี่ยนไป
หญิงแม่แจ่มเริ่มไม่นิยมทอและนุ่งซิ่นตีนจก หันไปทำงานอย่างอื่นที่ง่ายกว่าแทน 
ทำให้ผ้าตีนจกแม่แจ่มเกือบจะสูญไป จนปี พ.ศ. 2517 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรชาวแม่แจ่มเป็นครั้งแรก 
ทรงโปรดเกล้าให้คนแม่แจ่มฝึกทอตีนจกแบบประยุกต์ใช้ฝ้ายที่ชาวบ้านเรียกว่า “ ไหมประดิษฐ์ ” 
ทำให้ทอได้เร็วขึ้น ภายหลังจากนั้น ล้านนาเกิดการตื่นตัวแต่งกายย้อนยุค ผู้หญิงนุ่งซิ่นโดยเฉพาะซิ่นตีนจกแบบโบราณ ตีนจกแม่แจ่มจึงถูกกล่าวขวัญเฟื่องฟูขึ้นอีกครั้ง และตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 เป็นต้นมา 
มีการจัด “ งานเทศกาลผ้าตีนจกแม่แจ่ม ” ขึ้นในอำเภอแม่แจ่มทุกปี 
ช่วงเวลานั้นผู้หญิงแม่แจ่มจะแต่งกายงดงามด้วยผ้าซิ่นตีนจกมาร่วมกันย้อนสู่วิถีชีวิตแบบวันวาน
การที่ “ผ้าตีนจกแม่แจ่ม” ได้รับการอนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบัน ทำให้ชาวแม่แจ่ม ต่างได้ตระหนักถึงความวิริยะและอุตสาหะในการสร้างสรรค์ของบรรพบุรุษ ที่ส่งต่อสืบทอดมรดกทางหัตถกรรมอันล้ำค่า
มิให้สูญหายไปตามกาลเวลา 
เดือนกุมภาพันธ์ 2551 กระทรวงวัฒนธรรมโดยสำนักงานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำผ้าตีนจกแม่แจ่มไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ 
" คือเป็นมรดกทางภูมิปัญญาที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ "
เดือน มกราคม 2555 กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้อนุญาตให้ใช้ ตรา G.I.ติดตีนจกที่ผ่านการตรวจสอบ จากคณะกรรมการตรวจสอบภายในอำเภอม่แจ่ม ผลดีที่เกิดขึ้นจากการที่ผ้าตีนจกแม่แจ่มได้รับขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ 
คือได้รับการคุ้มครองให้ผ้าตีนจกแม่แจ่มเป็นมรดกอันล้ำค่าเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของคนแม่จ่ม
ได้รับการประชาสัมพันธ์ไปทั่วประเทศและต่างประเทศโดยข้อมูลของ G.I.
ได้รับความเชื่อถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้ว
ช่างทอได้รับเงินค่าจ้างทอเพิ่มขึ้นเกิน ครึ่งจากของเดิมที่เคยได้ทำให้ช่วยเหลือครอบครัวได้มากขึ้น
ช่างทอที่ได้ทิ้งกี่ทอผ้าไปประกอบอาชีพอื่นได้หวนกลับมาทอตีนจกดังเดิม
มีนักศึกษา นักวิชาการและกลุ่มบุคคลภายนอกเข้ามาศึกษาเรียนรู้เรื่องผ้าตีนจกมากขึ้น
ผลที่ตามมาคือรายได้ของผู้ผลิต ผู้ขาย
ได้เพิ่มขึ้นตลอดถึงรายได้ของผู้ประกอบการให้เช่าที่พักและร้านอาหาร
สรุปคือทำให้เงินหมุนเวียนในแม่แจ่มดีขึ้น




Cradit
-http://www.qsds.go.th/silkcotton/k_21.php

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น